1. Real Estate Developer
- วิเคราะห์โจทย์ที่ได้รับจากลูกค้าเพื่อสร้างวิสัยทัศน์และคอมเซ็ปต์ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้า
- บริหารจัดการงานในแผนก ประเมินระยะเวลาที่จะต้องใช้เพื่อให้งานเสร็จสิ้นได้อย่างแม่นยำ
- ประเมินความสามารถของบุคลากรภายในทีมและบริหารงานได้อย่างเหมาะสม
- วางแผนการติดตั้งระบบและการบริหารจัดการงานติดตั้งระบบให้เป็นไปตาม Timeline ของโครงการ
- ประเมินความต้องการแรงงาน Outsource และ Freelance ได้อย่างเหมาะสม

2. Interior Architect
- พบลูกค้าเพื่อเก็บรายละเอียดของงานหรือการทำ Site Surveys
- รับผิดชอบตรวจสอบสถานที่หน้างาน Site Survey เพื่อจัดทำแบบก่อสร้างหรือแบบตกแต่งภายใน
- ถอดแบบ BOQ จากแบบก่อสร้างหรือคำนวณปริมาณงานและราคา
- เขียนแบบก่อสร้าง งานโครงสร้าง งานสถาปัตยกรรม งานตกแต่ง Interior ตามความต้องการหรือคอนเซ็ปต์
- รับผิดชอบการออกแบบ คำนวณ Specs ในงานระบบและทำ TOR ตามเป้าหมายที่ฝ่ายขายกำหนด
- ทำงานร่วมกับผู้รับเหมาและทีมงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการสรรหาผู้เชี่ยวชาญต่างๆ เพื่อสร้างงานตามที่ออกแบบไว้ได้
- ออกแบบ schematic ได้จากแบบที่ร่างได้อย่างถูกต้องตามหลักการและคอนเซ็ปต์
- ออกแบบ 3D จากแบบที่ร่างได้อย่างถูกต้องตามหลักการและคอนเซ็ปต์
- สามารถให้คำปรึกษาเบื้องต้นแก่ลูกค้าได้ ในกรณีที่ลูกค้ามีความเชื่อด้านฮวงจุ้ย

3. Construction Management
- ควบคุมงานของผู้รับเหมา หรือ Supplier ต่าง ๆ ในการก่อสร้าง งานตกแต่งภายใน หรืองานจัดพื้นที่กิจกรรมฯ ให้เป็นไปตามแบบแปลน ตามมาตรฐานของวิศวกรรม
- วางแผนงานซ่อมบำรุงเฟอร์นิเจอร์ งานตกแต่งภายใน และงานระบบต่าง ๆ ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
- Waste Management
- จัดทำเอกสารตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติครุภัณฑ์ หรือ Datasheet และคู่มือการใช้งานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานระบบ
- ตรวจสอบและแก้ไขสัญญาการก่อสร้างด้วยความละเอียดรอบคอบ
- ติดต่อประสานงานกับ Supplier ต่าง ๆ เพื่อสรรหาและเปรียบเทียบวัสดุที่ตรงกับความต้องการ และมีราคาที่เหมาะสม
- นำเสนอรายละเอียดของงานออกแบบ ตลอดจนสรุปรายการการเลือกชนิดของวัสดุ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
- จัดทำรายการวัสดุอุปกรณ์ ให้ความช่วยเหลือแนะนำวัสดุตกแต่งแก่ลูกค้า และพร้อมนำเสนอ