เรามักจะมีคำถามในใจกับงานเสมอว่า “ถ้าไม่มีเรางานเดินต่อได้ไหม” ซึ่งจริงๆแล้วงานบางตำแหน่ง ถึงจะไม่มีเราก็สามารถรันงานต่อได้ ยิ่งถ้าคุณกำลังจะออกจากงาน เพื่อหางานใหม่ คุณจะมีความคิดกับตัวเองว่า ถ้าไม่มีเรางานเขาจะทำกันได้ใช่ไหม ? ถ้าไม่มีเราจะมีคนเคลียร์ปัญหานี้ไหม? เรายังสำคัญกับงานตรงนี้หรือไม่ ?
ซึ่งความเป็นจริงแล้ว “งานทุกงานสำคัญ” ยิ่งถ้าเราเป็นผู้ว่าจ้างเมื่อไหร่ เราพูดได้อย่างมั่นใจว่าทุกงานสำคัญหมด เพราะนายจ้างหาพนักงานมาเพื่อคาดหวังกับการทำงานของแต่ละตำแหน่งอยู่แล้ว
ในอีกมุมนึงถ้าเราเป็นลูกจ้าง เราจะมีความทุ่มเทในการทำงานแต่จงอย่าลืมว่า ! แบ่งเวลาการทำงาน อย่าทุ่มเวลาทั้งชีวิตให้กับบริษัทเพียงอย่างเดียว เพราะเหตุผลเหล่านี้
1.งานเป็นสิ่งที่ทำเท่าไหร่ ไม่มีวันหมด
ถึงคุณจะพยายามทำมันให้หมด ทำทั้งวันทั้งคืน ยังไงพรุ่งนี้คุณก็จะต้องเจอกับงานอื่นๆเพิ่มขึ้นอีก
2.การเอาใจใส่ลูกค้า
จริงอยู่มากมายที่คุณต้องคอยใส่ใจลูกค้าและก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับบริษัท แต่อย่าลืมการเอาใจใส่ครอบครัวและคนรักของคุณ ก็สำคัญมากเช่นกันและมีเพียงคุณคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้
เมื่อคุณมีความรัก หรือมีปัญหาในชีวิตไม่ว่าจะงานหรือคนในองค์กรรวมไปถึงลูกค้าของคุณ หากคุณไม่สนใจที่จะแก้ไข ตัวคุณทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวคุณเองก็จะไม่มีสมาธิในการทำงานอีกเลย
4.ชีวิตไม่ได้มีแค่งาน
ไหนจะลูกค้า และหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน อย่าลืม !! การเข้าสังคม พบปะผู้คน พักผ่อน ออกกำลังกาย เป็นส่วนสำคัญในชีวิตเหมือนกัน อย่าปล่อยให้ชีวิตของคุณต้องว่างเปล่า เพราะถึงคุณจะทุ่มเทให้บริษัทแต่บริษัทไม่เคยคิดจะอยู่ข้างคุณ นอกเวลางาน
5.ความเป็นจริง
ถ้าคุณเลือกอยู่ดึกๆทำงานทุกคืนความเป็นจริง บริษัทอาจจะไม่ได้มองว่าคุณเป็นคนขยัน อีกมุมนึงบริษัทอาจจะมองว่าคุณเป็นพนักงานที่ไม่สามารถทำงานให้เสร็จภายในเวลางานได้ ก็ได้นะ
ชีวิตของเราต้องมีอะไรมากกว่าแค่ทำงานให้เสร็จ เพื่อแลกกับเงินเดือนเท่ากันทุกเดือน ไม่ว่าคุณจะทำงานเยอะขึ้นแค่ไหน จะอยู่ดึกแค่ไหน จงอย่าลืมต้องรักตัวเองบ้างนะคะ เมื่อถึงวันนึงที่ร่างกายคุณเหนื่อยล้า เจ็บป่วย ไปทำงานไม่ได้ คุณนั่นแหละที่กำลังทำร้ายร่างกายตัวอยู่หรือไม่ ?