อัพเดทข่าว

       ใครที่กำลังมองหางานอยู่ยกมือขึ้น เชื่อว่าในตอนนี้ อาจจะมีหลายคน ที่เพิ่งเรียนจบและกำลังอยากหาเว็บสมัครงานใหม่ หรืออาจเป็นคนที่เคยทำงานมาแล้ว และอาจจะกำลังมองหางานในกรุงเทพ หรือจังหวัดอื่นๆ ที่ได้เงินเดือนที่ดีกว่า แต่จะทำอย่างไร ให้ตัวของคุณมีความโดดเด่นมากกว่าคนอื่นๆ และถูกคัดเลือกให้เข้ารับทำงานที่ใฝ่ฝัน เทคนิคที่สำคัญอันดับแรกเลยก็คือ การฝากประวัติส่วนตัวเอาไว้ในเว็บหางาน โดย Jobmyway มีเทคนิคเล็กๆน้อยๆ ที่จะช่วยให้ประวัติการทำงานของคุณ เข้าตาบริษัทที่กำลังมองหาคนอยู่ ถ้าทำตามนี้ได้ รับรองได้เลยว่า คุณต้องได้รับการติดต่อกลับ และได้รับการเข้าสัมภาษณ์งานอย่างแน่นอน จะมีเทคนิคอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย

1.เลือกรูปที่เหมาะสม
ขั้นตอนแรกในการสร้างความน่าเชื่อถือ และความน่าสนใจให้กับตัวของคุณเลยก็คือ การเลือกรูปภาพที่ใส่ลงในเว็บหางานที่มีความเหมาะสม เนื่องจาก บริษัทที่ประกาศรับสมัครงานนั้น ไม่ได้เจอคุณในตัวเป็นๆตั้งแต่แรก การสร้างความประทับใจผ่านรูปภาพ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญ ที่อาจทำให้คุณถูกเลือกเข้าไปในรอบสัมภาษณ์งานได้ โดยอาจแบ่งเป็น 2 สายงาน
- ในสายงานแรก คือสายงานที่ต้องใช้ความน่าเชื่อถือ จึงจำเป็นต้องใช้รูปถ่ายหน้าตรง ที่มีความเป็นทางการ มีการแต่งตัวที่เรียบร้อย เลือกสีเสื้อผ้าที่ไม่ฉูดฉาด ไม่ควรใช้รูปที่ถ่ายเล่นจากโทรศัพท์มือถือ เพราะอาจทำให้ความน่าเชื่อถือในการทำงานนั้นลดลง
- ในสายงานที่ 2 คือสายงานการบันเทิง หรือสายงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ อาจเลือกใช้รูปภาพที่ดูจริงจังน้อยกว่าแบบแรก อาจเป็นรูปที่มีการยิ้ม เพื่อเพิ่มความเป็นกันเองให้กับคนที่เห็นได้ดี แต่ก็ยังต้องคงความน่าเชื่อถือเอาไว้ ไม่ควรใช้รูปที่ดูไม่เหมาะสม จะดีที่สุด

2.ใส่ประวัติส่วนตัวให้ครบ
คนหางานกรุงเทพ หรือหางานหลายๆคนนั้น อาจพลาดการเรียกเข้าสัมภาษณ์ แม้จะมีความสามารถในการทำงานมากเพียงพอ เพราะการที่ไม่ได้ใส่ประวัติส่วนตัวเอาไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งอาจทำให้บริษัทไม่สามารถติดต่อ เพื่อเรียกเข้าสัมภาษณ์งานได้ และอาจทำให้ทางบริษัทไม่มีข้อมูลมากเพียงพอในการคัดเลือก เช่น หากไม่ได้ใส่เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล์ ที่ใช้ในการติดต่องานเอาไว้ ก็อาจทำให้บริษัทเหล่ายนั้น ไม่สามารถติดต่อผู้สมัครงานได้ หรือถ้าหากคุณเป็นคนหางานระยอง แต่ไม่ได้ใส่ที่อยู่เอาไว้ บริษัทก็อาจคิดว่าคุณไม่ได้พักอยู่ในจังหวัดนั้นๆ และทำให้คุณไม่ถูกเลือกเข้าสัมภาษณ์ได้ หรือการที่ไม่ได้ใส่ประวัติการศึกษาลงไป ก็อาจทำให้นายจ้างเข้าใจผิดได้ว่า คุณอาจไม่มีประสบการณ์ในการเรียนที่เหมาะกับสายงานนั้นๆ  จึงควรใส่ประวัติส่วนตัวเอาไว้ให้ครบถ้วน เพื่อให้บริษัทสามารถคัดเลือกคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

3.ลงประวัติการทำงานอย่าให้ขาด
อีกหนึ่งสิ่งที่คนหางานหางานนนทบุรี หรือคนหางานหลายๆคนไม่ได้ให้ความสำคัญ และอาจทำให้คุณไม่ผ่านการคัดเลือกในรอบแรก ก็คือการไม่ลงประวัติการทำงาน หรือการฝึกงาน โดยที่ประวัติการทำงานเหล่านี้ จะช่วยให้บริษัททราบได้ว่า คุณมีประสบการณ์ในการทำงานมากน้อยเพียงใด และเหมาะสมกับตำแหน่งงานนั้นๆหรือไม่ จึงควรใส่ประวัติการทำงานให้ครบ โดยควรไล่ประวัติการทำงานตั้งแต่ปัจจุบัน ลงไปถึงอดีด โดยอย่าลืมใส่ชื่อบริษัท ตำแหน่งงานที่ทำ ปีที่เข้าทำงาน ปีที่ออกจากงาน และความรับผิดชอบในสายงานนั้นๆเอาไว้ด้วย

4.ความสามารถพิเศษของคุณคืออะไร
นอกจากความสามารถในการทำงาน ที่ควรจะต้องใส่ลงในเว็บหางานแล้วนั้น อีกหนึ่งสิ่งที่ควรมีเช่นเดียวกันเลยก็คือ ความสามารถพิเศษ หรืองานอดิเรกที่ตัวเราชอบทำ เพราะงานอดิเรกเหล่านี้ จะเป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทรู้จักตัวตนของคนหางานเชียงใหม่ และหางานในทุกๆจังหวัดมากขึ้น เช่น ถ้าหากคุณเป็นคนชอบอ่านหนังสือในเวลาว่าง นั่นแปลว่าคุณเป็นคนที่รักการเรียนรู้ และเป็นคนที่มีสมาธิ หรือหากคุณมีความสามารถพิเศษ ในการร้องเพลง หรือเล่นดนตรี นั่นแปลได้ว่า คุณเป็นคนที่รักความผ่อนคลาย มีอารมสุนทรีย์ เป็นต้น

5.ทักษะการทำงานของคุณคืออะไร
นอกจากความสามารถ และประวัติในการทำงานแล้วนั้น ทักษะในการทำงานอย่าง Hard Skill และ Soft Skill ก็เป็นอีกสิ่งที่ขาดไม่ได้ในประวัติส่วนตัวของคุณเช่นเดียวกัน โดยคุณอาจเริ่มทำลิสต์ออกมาเป็นข้อๆ พร้อมกับใส่คำอธิบายสั้นๆเอาไว้ เพื่อให้ทางบริษัทที่คัดเลือก เข้าใจในความสามารถ และตัวตนของคุณเอาไว้ด้วย เช่น หากคุณมี Soft Skill ในการบริหารเวลา นั่นก็แปลได้ว่า งานที่คุณจะทำให้กับบริษัทนั้น จะมีคุณภาพ และตรงตามเวลาที่กำหนดนั่นเอง หรือหากคุณมีทักษะ Hard Skill ในการใช้ระบบคลาวด์ ก็แปลได้ว่า คุณมีความสามารถในการทำงาน ส่งงานที่สะดวก รวดเร็ว และเหมาะกับองค์กรในยุคปัจจุบัน

6.ตำแหน่งงานที่ต้องการทำคืออะไร
การใส่ตำแหน่งงานที่ต้องการทำ ลงในเว็บหางาน จะเป็นตัวช่วยดีๆ ที่ทำให้บริษัท หรือองค์กร ที่กำลังต้องการตัวคนทำงานในสายงานนั้นๆ สามารถหาคุณเจอ เพราะถ้าหากคุณไม่ใส่ตำแหน่งงานที่ต้องการทำลงไปแล้ว ก็อาจมีโอกาสน้อยมากที่จะเจอกับบริษัทที่ตรงกับความต้องการของคุณจริงๆ โดยอาจมีการระบุสายงานที่ต้องการทำ เป็น 3 อันดับแรก เช่น สายงานกราฟิกดีไซน์ , สายงานตัดต่อวิดีโอ ,สายงานการถ่ายภาพ เป็นต้น

7.อย่าลืมแบบทดสอบบุคลิกภาพ
การทำแบบทดสอบบุคลิกภาพ หรือ MBTI เป็นแบบทดสอบที่จะบ่งบอกว่าคุณอยู่ในบุคลิกภาพใด ในบรรดา 16 บุคลิกภาพนั้น และเหมาะกับการทำงานในรูปแบบใด ซึ่งการทำแบบทดสอบนี้ ถึงแม้จะไม่ใช่ทั้งหมดของความเป็นตัวตนของคุณ แต่ก็ยังเป็นตัวช่วย ที่ทำให้บริษัทเข้าใจในตัวของคุณในเบื้องต้นมากขึ้นนั่นเอง

8.โชว์ผลงานของคุณให้แน่น
นอกจากประวัติการทำงานแล้ว ถ้าหากคุณมีผลงานที่เคยทำมา ไม่ว่าจะเป็นผลงานในตอนเรียน ผลงานในช่วงเวลาการฝึกงาน หรือผลงานในการทำงานในบริษัทเก่าๆที่เคยทำนั้น ก็ควรนำผลงานเหล่านั้นมาแสดงให้กับบริษัทดูด้วย เพราะการได้เห็นผลงานในการทำงานของเรา จะทำให้บริษัทเข้าใจในฝีมือการทำงานของเรามากขึ้น และเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้บริษัทคัดเลือกเราเข้าทำงานได้มากกว่าคนที่ไม่มีผลงานในการทำงานใดๆเลยนั่นเอง โดยมีข้อแนะนำว่า ควรคัดเลือกผลงานที่คุณคิดว่าประสบความสำเร็จ หรือเป็นงานที่ท้าทาย เอาไว้ในหน้าแรกๆ แล้วก็อย่าลืมจัดรูปแบบของผลงานให้อ่านง่าย ดูสะอาดตา ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการได้งานมากขึ้น

9.เรทเงินเดือนที่ต้องการ อย่าลืมใส่
หลายๆคนอาจคิดว่า ยังไม่ควรใส่จำนวนเงินเดือนที่ต้องการเอาไว้ แต่จริงๆแล้ว การใส่เรทเงินเดือนที่เราต้องการเอาไว้ในเว็บหางาน ก็จะช่วยคัดกรองบริษัท ที่มีความสามารถในการจ่ายเงินเดือน ที่เหมาะสมให้กับเรา ถึงแม้คุณจะเรียกเงินเดือนในราคาสูง แต่ถ้าบริษัทเหล่านั้นมองเห็นถึงความสามารถของคุณจริงๆ พวกเขาก็จะไม่รอที่จะเรียกคุณเข้าไปสัมภาษณ์และเข้าทำงานอย่างแน่นอน

10.อย่าลืมใส่เหตุผลของการสมัครงานนี้
นอกจากการใส่ตำแหน่งงานที่ต้องการแล้วนั้น การให้เหตุผลในการสมัครงานนี้ ก็เป็นสิ่งที่จะช่วยให้บริษัทเข้าใจ และมองเห็นถึงศักยภาพในการทำงานของคุณได้ เช่น การให้เหตุผลในการทำงานในสายอาชีพนี้ เพราะเกิดจากความชอบ รู้สึกว่าทำงานนี้เเล้วมีความสุข รู้สึกท้าทาย และได้พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา เป็นต้น

       จบลงไปแล้วกับเทคนิคการฝากประวัติส่วนตัวในเว็บหางาน ให้ปัง เป็นที่สนใจของบริษัทต่างๆ และเพิ่มโอกาสในการถูกคัดเลือกเข้าทำงาน ซึ่งอย่าลืมว่า ข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ควรเขียนด้วยความจริง ไม่ควรแต่งเติมหรือโกหก เพื่อสร้างความประทับใจให้กับบริษัทเหล่านั้น เพราะถ้าหากในการทำงานจริง คุณไม่สามารถทำงานได้ดี เท่ากับประวัติการทำงานของคุณเเล้วนั้น ก็อาจเกิดปัญหาย้อนกลับมาที่ตัวคุณได้นั่นเอง ในครั้งหน้าเราจะมีเทคนิคในการหางานดีๆ อะไรมาให้ทุกคนได้ดูกันอีก อย่าลืมติดตาม

อัพเดตล่าสุดเมื่อ : 27 ธันวาคม 2565
ผู้อัพเดต : petchzst